วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

นาฬิกา...ความรัก



ณ วินาทีที่นาฬิกาบอกเวลา ทุกสิ่งทุกอย่างต่างเคลื่อนไหวไปอย่างช้าๆ ราวกับว่าการเคลื่อนไหวของเวลาคือการเดินทางที่ไม่หยุดนิ่ง หลายคนคงปฏิเสธไม่ได้ว่า “เวลา” คือสิ่งสำคัญที่ยึดโยงเราไว้กับทุกสิ่ง เคยเกิดคำถามในใจหรือไม่ว่า “เวลา” คืออะไร หากพยายามค้นหา อาจได้คำตอบมากมาย จากหลายแง่คิดทั้งในรูปแบบของความรู้สึก จินตนาการ และวิทยาศาสตร์
การเดินทางของเวลาในแต่ละชั่วโมง วัน เดือน และปีมีความยาวของช่วงเวลาต่างกัน แต่เกิดการเปลี่ยนแปลง เติบโต และสร้างการเรียนรู้มากมาย การเดินทางของเวลานำพาผู้คนไปพบกับสิ่งต่างๆในช่วงเวลาของชีวิต ซึ่งเราคาดเดาไม่ได้ว่าแต่ละคนมีเวลาของช่วงชีวิตเป็นอย่างไร รู้เพียงแต่ว่ามีจุดเริ่มต้นและจุดจบที่ไม่ต่างกันนัก

            เวลายังคงเดินทาง เคลื่อนไหวอย่างไม่หยุดนิ่งควบคู่ไปกับการดำเนินชีวิตของผู้คน และนำพาไปค้นหาความหมายของชีวิต ทั้งความสุข ความทุกข์ ความหวัง ความฝัน และสิ่งสำคัญที่เราไม่อาจปฏิเสธถึงความปรารถนาภายใต้จิตใจอันเปราะบางของทุกคน สิ่งนั้นก็คือ “ ความรัก ” ความรู้สึกอันสวยงามที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสุข ยากที่จะอธิบาย
            “ ความรัก ” เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ทำให้โลกเบี้ยวๆใบนี้ยังคงน่าอยู่ ผู้คนต่างพยายามค้นหา “ความรัก” เพราะเชื่อว่าจะทำให้ชีวิตดำรงอยู่อย่างมีความหมาย สร้างแรงศรัทธาและเกิดกำลังใจ ภายใต้ความเชื่อนั้นหลายคนจึงพยายามสร้างสรรค์ความหมายของความรักออกมามากมาย ซึ่งความหมายเหล่านั้นมักเกี่ยวเนื่องอยู่กับช่วงเวลา เพราะผู้คนในแต่ละวัย แต่ละช่วงเวลาของชีวิตมีความเข้าใจเรื่องความรักที่ต่างกัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่คล้ายกัน คือเมื่อใดที่ความรักสมหวังจะเกิดความสุขอย่างเปี่ยมล้น ในทางตรงกันข้ามหากผิดหวังก็จะสร้างความทุกข์อย่างมากมายมหาศาลฝังแน่นอยู่ภายในใจ
            มนุษย์ต้องการความรักมาเติมเต็มให้ชีวิตสมบูรณ์ ไม่ว่าชีวิตจะขาดแคลนสิ่งอื่นๆอยู่มากมาย แต่หากมีความรักก็จะรู้สึกเหมือนชีวิตมีทุกสิ่งทุกอย่าง ความรักสามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆได้มากมาย ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้พลังของความรักอย่างเหมาะสมหรือไม่ แน่นอนว่าเมื่อมีความรักเรามักจะมองข้ามทุกสิ่ง มองข้ามความรวยหรือจน มองข้ามความสุขเพียงลำพัง หรือแม้กระทั่งมองข้ามความถูกต้องที่บัญญัติโดยสังคม ความรักที่ก่อให้เกิดพลังสร้างสรรค์จึงอาจกลายเป็นอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงยิ่งได้
            หากพยายามค้นหามุมมองเกี่ยวกับความรัก เราอาจได้แง่คิดและข้อเปรียบเทียบมากมาย และมีสิ่งหนึ่งที่เราจะค้นพบคือ ความรักเป็นดั่งนาฬิกา มีช่วงเวลาของการเดินทางอย่างไม่หยุดนิ่งไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว บางคนเดินทางชีวิตด้วยการเริ่มต้นช้าๆ เหมือนเข็มสั้นของนาฬิกาที่บอกเวลาเป็นชั่วโมง คนเหล่านี้ดำเนินชีวิตด้วยความเรียบง่าย สงบนิ่ง เปลี่ยนแปลงและเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ไปตามกระแสทางสังคม เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ภายใต้กฎระเบียบนี้ได้ แต่ยังคงยึดถือความเป็นตัวตน ไม่ปล่อยตนเองให้ถูกครอบงำ ความรักของผู้คนเหล่านี้จึงเป็นเรื่องสำคัญ ยากที่จะรัก ใช้เวลานานในการศึกษาและมีความรัก แต่หากรักแล้ว ความรักนั้นจะคงอยู่ตราบชั่วนิรันดร์ ยาวนานฝังรากลึกลงภายในจิตใจที่เข้มแข็งแต่อ่อนโยน
            เข็มยาวของนาฬิกาที่บอกเวลาเป็นนาที เปรียบได้กับผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่บนพื้นฐานของสังคม เปลี่ยนแปลง เคลื่อนไหวไปตามกระแส มีวิถีปฏิบัติที่น่าสนใจ ชื่นชอบการทดลองค้นหาความรักของตนเองในหลายวิธี ไม่ยึดติดกับรูปแบบ ใช้ความรักเป็นความท้าทายที่ทำให้ชีวิตมีความสนุกสนานไม่จำเจ โอนอ่อน รับมือได้กับทุกสถานการณ์ เดินทางสายกลางไม่มากหรือน้อยไป มีความรักเป็นความสวยงามของชีวิต เริ่มต้นมีความรักด้วยช่วงเวลาพอประมาณ แต่รักษามันด้วยใจอันบริสุทธิ์ อาจมีการเปลี่ยนแปลง แต่ท้ายที่สุดเมื่อค้นพบความหมายของความรักที่สมดั่งใจปรารถนาแล้ว ความรักจะเป็นดั่งสายน้ำชุ่มเย็นไหลผ่านความรู้สึกที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสุข และดำเนินไปอย่างสม่ำเสมอ
            แต่ในปัจจุบันกระแสสังคมในช่วงเวลาแห่งความเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เสมือนครอบงำให้เวลาเดินทางเร็วขึ้น ดั่งเช่นเข็มนาฬิกาบอกเวลาเป็นวินาทีที่เดินผ่านช่วงเวลาต่างๆ เพียงชั่วพริบตา เรียนรู้ ก้าวข้ามสภาวะต่างๆ ด้วยความเข้าใจ ผู้คนเหล่านี้มักวางแผนการดำเนินชีวิตไปสู่อนาคต พยายามสร้างสรรค์ความเป็นปัจจุบันให้ส่งผลสวยงามในอนาคต ไม่ยึดติดกับอดีตที่ผ่านมา เร่งรีบและตื่นเต้นที่จะพบกับสิ่งใหม่ที่กำลังเดินทางไปหามัน ไม่รอคอยความรัก มักตามหาความรักจากผู้คนรอบข้าง ใจกว้างที่จะมอบความรักให้กับผู้คน มีวิธีการสร้างความสุขจากความรักได้ไม่ยาก ความรักจึงเป็นดั่งจิกซอว์ตัวสุดท้ายที่เติมเต็มภาพช่วงเวลาของชีวิตให้สวยงาม ตามกาลเวลาอันเหมาะสม
            ผู้คนมากมายต่างเริ่มต้นชีวิตแตกต่างกัน อาจเร็วหรือช้าแล้วแต่ธรรมชาติของแต่ละคน แต่สุดท้ายแล้วการเดินทางตามหาความรักจะพบเจอกับช่วงเวลาอันเหมาะสมที่เข็มนาฬิกาบรรจบตรงกัน เมื่อนั้นความรักอาจเริ่มต้น หรือในบางครั้งการบรรจบของเข็มนาฬิกาที่ไม่เหมาะสม ความรักก็อาจเป็นดั่งเข็มวินาทีที่ผ่านมาและเดินทางไปอย่างรวดเร็ว คงไม่สามารถบอกได้ว่าช่วงเวลาใดเหมาะสมสำหรับการมีความรัก เพราะเข็มนาฬิกาต่างมีช่วงเวลาที่สั้นยาวต่างกัน แต่ถึงอย่างไรหากเรายังคงเชื่อมั่นในความรัก ศรัทธาที่จะค้นหาและรอคอยมัน เชื่อว่าเมื่อเราค้นพบความรักนั้นแล้ว ความสุขที่มากล้นจนเกินจะบรรยายจะเกิดขึ้นได้กับเราทุกคน


            เราอาจดำเนินชีวิตตามวิถีเข็มนาฬิกา เพราะชื่นชมในความสม่ำเสมอของการเดินทางของเวลา นั่นอาจไม่ใช่เรื่องสำคัญทั้งหมดของชีวิต การเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและใช้ความรักสร้างคุณค่าของชีวิต อาจเป็นทางลัดไปสู่การมีความรักที่สมบูรณ์พร้อมสำหรับการดำเนินไปตามการเดินทางของช่วงเวลาชีวิต หากเรามีความรักที่สมบูรณ์ ความรักมักนำพาเราไปสู่การแบ่งปันไม่ว่าความรักนั้นจะมีรูปแบบอย่างไร
            แต่ในอีกมุมหนึ่งของความรัก หากเรารักผู้อื่นมากเสียจนลืมที่จะรักและดูแลตัวเราเอง ก็อาจเกิดปัญหาตามมาจากความรักนั้นได้ หากเราลองทบทวนค้นหานิยามของความรักจะพบว่า ความรักย่อมเกิดจากหลายปัจจัยที่เหมาะสม ไม่มากหรือน้อยไป เกิดจากความสม่ำเสมอและรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเองให้สมบูรณ์ ความรักนั้นจึงจะสวยงามและทำให้ชีวิตสมบูรณ์ แต่ความรักไม่ใช่สิ่งเดียวเท่านั้นที่ทำให้ชีวิตมีความสุข ชีวิตเรายังคงต้องการส่วนประกอบอื่นๆ มากบ้างน้อยบ้างตามช่วงเวลาของชีวิตที่เหมาะสม
            ชีวิตเรายังจำเป็นต้องอาศัยการเดินทางของช่วงเวลา  ตราบใดที่เรายังคงปรารถนาที่จะมีความรัก การค่อย ๆ เรียนรู้และทำความเข้าใจเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากเราปล่อยวันเวลาให้ล่วงเลยไปโดยไม่ยอมเรียนรู้สิ่งเหล่านั้น มันอาจจะนำพาเราไปสู่ความทุกข์ แต่ก่อนที่เวลานั้นจะมาถึงเราควรสร้างความสุขจากช่วงเวลาต่างๆของชีวิต และค่อย ๆ เรียนรู้ความรักที่เกิดขึ้นไปพร้อม ๆ กับสิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิต
ขอให้ความรักของเราเป็นดั่งนาฬิกาที่มีส่วนประกอบเรียบง่าย เราอาจเป็นหนึ่งในเข็มนาฬิกานั้น เดินทางและเรียนรู้เรื่องราวของความรักจากเข็มนาฬิกาอื่นๆ ที่เดินทางผ่านตัวเราไป เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสมเข็มนาฬิกาจะบรรจบตรงกัน เราอาจได้เริ่มต้นเรียนรู้ที่จะมีความรักได้

                แด่ความรักที่ผ่านพ้นไปเร็วดั่งเข็มวินาที...


เลยลม...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น