วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

“ มีความโชคดี...อยู่เสมอ ”


โชค เป็นคำที่เราคุ้นเคย เป็นข้อกำหนดบางอย่าง ที่หลายคนให้ความสำคัญ โชค ยังมีความเกี่ยวเนื่องกับตัวบุคคล ไม่ว่าจะเป็น วัน เดือน ปีเกิด หรือชื่อ นามสกุล (เป็นความเชื่อส่วนบุคคล) ของบุคคลนั้น ที่ผูกพันกันมาตั้งแต่ลืมตาดูโลก แต่นั่นเป็นความเชื่อทางโหราศาสตร์ ไม่มีถูกและผิด เพียงแต่อย่าเชื่อ หรืองมงายจนเกินความจำเป็น
            ‘โชค มักนำพาความสุขมาให้เราในทุกขณะของการดำเนินชีวิต โชคดีหรือ ร้าย ขึ้นอยู่กับการให้นิยามความหมายหรือ มุมมองทางความคิด แต่เชื่อว่าโชคดี มีอยู่เสมอ เราจะเห็นเป็นจริงเมื่อ เราลองย้อนกลับไปคิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา เพียงแต่เราต้อง 
คิดต่างออกไป มองโลกในแง่บวกให้มากขึ้น

            เราโชคดีที่ตื่นมาแล้วยังมีชีวิตอยู่
            เราโชคดีที่ตื่นมาแล้วยังมีเสื้อผ้าให้สวมใส่
            เราโชคดีที่มีอาหารเช้าให้กินก่อนออกไปเรียนหรือทำงาน
            เราโชคดีที่มีสถานที่ ที่มีผู้คนอยู่เป็นเพื่อนเราแม้ไม่เคยคุยกัน
            เราโชคดีที่มีร้านอาหารให้กินตอนพักเที่ยง
            เราโชคดีที่มีปัญหา แล้วมีพ่อแม่คอยช่วยเหลือ
            เราโชคดีที่มีคนมีน้ำใจ แบ่งปันสิ่งต่างๆให้เรา
            เราโชคดีที่มีที่ทำงานให้กลับออกไป
            เราโชคดีที่มีคนกำลังรอให้เรากลับไปกินข้าวเย็นด้วยกัน
            เราโชคดีที่มีบ้านให้กลับไปพักผ่อนอย่างอบอุ่น
            เราโชคดีที่มีเตียงให้ซุกหัวนอน
            เราโชคดีที่มีหมอนให้เราหนุนเมื่อยามหลับใหล


            ‘โชคดี มีอยู่มากมาย เกิดขึ้นทุกวินาทีโดยที่เราไม่รู้ตัว ทั้งที่ตั้งใจ และไม่ตั้งใจ ทั้งทางตรงและทางอ้อม เพียงแต่เราไม่เคยสนใจ แม้แต่จะหันมอง ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปในแต่ละวัน นำพาความโชคดี มาให้เราทั้งสิ้น เราจึงมีความสุขได้ไม่ยาก เราจะโชคร้าย ก็ต่อเมื่อเรามองไม่เห็นคุณค่าของตังเอง เพราะเราจะไม่เห็นอะไรเลย และหากเราไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนมุมมอง สิ่งนั้นเป็นความโชคร้ายที่สุด
ในชีวิต
            หากเรากำลังโทษโชคชะตาที่ทำให้ โชคร้าย และกำลังฟูมฟายกับชีวิต ขอให้ลองคิดใหม่ แล้วจะดีขึ้นเองโดยธรรมชาติของมันไม่ต้องสรรหา หรือปรุงแต่งอะไร ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น คิดบวก เข้าใจและเห็นคุณค่าของตัวเอง จากนั้นความโชคดี จะเริ่มเข้ามา...เริ่มต้นด้วยความโชคดีที่เรามีสติและคิดได้ แล้วเราจะโชคดี ที่ชีวิตเราเริ่มดีขึ้น... (ลองดูซิ)
            ความคิดในแง่บวก จะมีเรื่องดีๆ เป็นรางวัลแห่งความโชคดีให้กับเราอยู่เสมอ อย่างมองว่าเป็นเรื่องเพ้อฝัน สร้างเรื่องหลอกตัวเอง ไร้สาระ...แต่จะมีประโยชน์อะไรที่เราจะจมอยู่กับความทุกข์ ที่เราหลุดออกจากมันได้
แค่เปลี่ยนมุมมองเล็กน้อย ไม่ต้องไปพบจิตแพทย์ เพื่อบำบัดจิตให้ดีขึ้น ไม่มีค่าใช้จ่าย ทำได้ด้วยตัวเราเอง และจงอย่ารอให้ใครมาบอกหรือขอคำปรึกษา เพราะถ้าเราไม่คิดจะเริ่มต้นด้วยตัวเอง จะมีประโยชน์อะไรที่จะให้คนอื่นมาช่วย.......
            ทุกคนมีความสุขได้ด้วยตัวเอง เรามี โชคดี กันทุกคน จงอย่าสับสนกับความคิดและความรู้สึก พยายามจดจำและไขว่คว้าเรื่องราวดีๆ...จะดีกว่าไหม ทำไมต้องทำร้ายตัวเองด้วยความคิด ชีวิตเป็นของเรา จะรอให้ใครมาช่วย จะยากอะไรกับความคิด นานซักนิดก็ไม่เป็นไรหากเราเข้าใจ...เชื่อว่าเราทุกคนทำได้ (สู้ สู้!!)
            ความโชคดี เป็นเรื่องง่าย เพียงเราเปลี่ยนมุมมอง มองในด้านที่ดีของชีวิต คิดแต่เรื่องที่มีความสุข สนุกกับประสบการณ์ใหม่ที่ผ่านเข้ามา
หากเราทุกคน พยายามค้นหาความสุขที่แท้จริงแล้ว เชื่อว่าการเปลี่ยนมุมมอง ไปสู่ความคิดที่ดีเป็นเรื่องสำคัญ เพราะในแต่ละวันมีเรื่องราวผ่านเข้ามาในชีวิตมากมาย หากเราไม่มีวิธีจัดการหรือแก้ไขมัน ก็คงทำให้ชีวิตเรายุ่งยากมากเลยทีเดียว แต่เราก็โชคดีที่มีเรื่องเข้ามา...ให้เราได้คิด ดีกว่าอยู่เฉยๆ...
โชคดีติดตัวเรามาตั้งแต่เกิด ลองมองดีๆ เราจึงไม่ควรละเลยมัน ใช้มันให้ประโยชน์ แต่อย่าลืมว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีทั้งดีร้าย...อย่าหลงและจมอยู่กับความคิด ชีวิตเราทุกคนมีทั้ง โชคดีและ โชคร้ายหลายร้อยเท่า


ในบางครั้งเราโชคร้ายบ้าง... ก็ไม่เป็นไร เพราะมันจะทำให้เราซึมซับความ โชคดีได้อย่างชื่นฉ่ำหัวใจ ขอให้เราเดินทางชีวิตควบคู่ไปกับมัน มันจะคอยให้กำลังใจเราเสมอ และมันยังคอยเตือนสติให้เรา...เพราะ....
มี...ความ โชคดี...อยู่เสมอ


เลยลม...^__^

วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

นาฬิกา...ความรัก



ณ วินาทีที่นาฬิกาบอกเวลา ทุกสิ่งทุกอย่างต่างเคลื่อนไหวไปอย่างช้าๆ ราวกับว่าการเคลื่อนไหวของเวลาคือการเดินทางที่ไม่หยุดนิ่ง หลายคนคงปฏิเสธไม่ได้ว่า “เวลา” คือสิ่งสำคัญที่ยึดโยงเราไว้กับทุกสิ่ง เคยเกิดคำถามในใจหรือไม่ว่า “เวลา” คืออะไร หากพยายามค้นหา อาจได้คำตอบมากมาย จากหลายแง่คิดทั้งในรูปแบบของความรู้สึก จินตนาการ และวิทยาศาสตร์
การเดินทางของเวลาในแต่ละชั่วโมง วัน เดือน และปีมีความยาวของช่วงเวลาต่างกัน แต่เกิดการเปลี่ยนแปลง เติบโต และสร้างการเรียนรู้มากมาย การเดินทางของเวลานำพาผู้คนไปพบกับสิ่งต่างๆในช่วงเวลาของชีวิต ซึ่งเราคาดเดาไม่ได้ว่าแต่ละคนมีเวลาของช่วงชีวิตเป็นอย่างไร รู้เพียงแต่ว่ามีจุดเริ่มต้นและจุดจบที่ไม่ต่างกันนัก

            เวลายังคงเดินทาง เคลื่อนไหวอย่างไม่หยุดนิ่งควบคู่ไปกับการดำเนินชีวิตของผู้คน และนำพาไปค้นหาความหมายของชีวิต ทั้งความสุข ความทุกข์ ความหวัง ความฝัน และสิ่งสำคัญที่เราไม่อาจปฏิเสธถึงความปรารถนาภายใต้จิตใจอันเปราะบางของทุกคน สิ่งนั้นก็คือ “ ความรัก ” ความรู้สึกอันสวยงามที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสุข ยากที่จะอธิบาย
            “ ความรัก ” เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ทำให้โลกเบี้ยวๆใบนี้ยังคงน่าอยู่ ผู้คนต่างพยายามค้นหา “ความรัก” เพราะเชื่อว่าจะทำให้ชีวิตดำรงอยู่อย่างมีความหมาย สร้างแรงศรัทธาและเกิดกำลังใจ ภายใต้ความเชื่อนั้นหลายคนจึงพยายามสร้างสรรค์ความหมายของความรักออกมามากมาย ซึ่งความหมายเหล่านั้นมักเกี่ยวเนื่องอยู่กับช่วงเวลา เพราะผู้คนในแต่ละวัย แต่ละช่วงเวลาของชีวิตมีความเข้าใจเรื่องความรักที่ต่างกัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่คล้ายกัน คือเมื่อใดที่ความรักสมหวังจะเกิดความสุขอย่างเปี่ยมล้น ในทางตรงกันข้ามหากผิดหวังก็จะสร้างความทุกข์อย่างมากมายมหาศาลฝังแน่นอยู่ภายในใจ
            มนุษย์ต้องการความรักมาเติมเต็มให้ชีวิตสมบูรณ์ ไม่ว่าชีวิตจะขาดแคลนสิ่งอื่นๆอยู่มากมาย แต่หากมีความรักก็จะรู้สึกเหมือนชีวิตมีทุกสิ่งทุกอย่าง ความรักสามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆได้มากมาย ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้พลังของความรักอย่างเหมาะสมหรือไม่ แน่นอนว่าเมื่อมีความรักเรามักจะมองข้ามทุกสิ่ง มองข้ามความรวยหรือจน มองข้ามความสุขเพียงลำพัง หรือแม้กระทั่งมองข้ามความถูกต้องที่บัญญัติโดยสังคม ความรักที่ก่อให้เกิดพลังสร้างสรรค์จึงอาจกลายเป็นอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงยิ่งได้
            หากพยายามค้นหามุมมองเกี่ยวกับความรัก เราอาจได้แง่คิดและข้อเปรียบเทียบมากมาย และมีสิ่งหนึ่งที่เราจะค้นพบคือ ความรักเป็นดั่งนาฬิกา มีช่วงเวลาของการเดินทางอย่างไม่หยุดนิ่งไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว บางคนเดินทางชีวิตด้วยการเริ่มต้นช้าๆ เหมือนเข็มสั้นของนาฬิกาที่บอกเวลาเป็นชั่วโมง คนเหล่านี้ดำเนินชีวิตด้วยความเรียบง่าย สงบนิ่ง เปลี่ยนแปลงและเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ไปตามกระแสทางสังคม เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ภายใต้กฎระเบียบนี้ได้ แต่ยังคงยึดถือความเป็นตัวตน ไม่ปล่อยตนเองให้ถูกครอบงำ ความรักของผู้คนเหล่านี้จึงเป็นเรื่องสำคัญ ยากที่จะรัก ใช้เวลานานในการศึกษาและมีความรัก แต่หากรักแล้ว ความรักนั้นจะคงอยู่ตราบชั่วนิรันดร์ ยาวนานฝังรากลึกลงภายในจิตใจที่เข้มแข็งแต่อ่อนโยน
            เข็มยาวของนาฬิกาที่บอกเวลาเป็นนาที เปรียบได้กับผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่บนพื้นฐานของสังคม เปลี่ยนแปลง เคลื่อนไหวไปตามกระแส มีวิถีปฏิบัติที่น่าสนใจ ชื่นชอบการทดลองค้นหาความรักของตนเองในหลายวิธี ไม่ยึดติดกับรูปแบบ ใช้ความรักเป็นความท้าทายที่ทำให้ชีวิตมีความสนุกสนานไม่จำเจ โอนอ่อน รับมือได้กับทุกสถานการณ์ เดินทางสายกลางไม่มากหรือน้อยไป มีความรักเป็นความสวยงามของชีวิต เริ่มต้นมีความรักด้วยช่วงเวลาพอประมาณ แต่รักษามันด้วยใจอันบริสุทธิ์ อาจมีการเปลี่ยนแปลง แต่ท้ายที่สุดเมื่อค้นพบความหมายของความรักที่สมดั่งใจปรารถนาแล้ว ความรักจะเป็นดั่งสายน้ำชุ่มเย็นไหลผ่านความรู้สึกที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสุข และดำเนินไปอย่างสม่ำเสมอ
            แต่ในปัจจุบันกระแสสังคมในช่วงเวลาแห่งความเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เสมือนครอบงำให้เวลาเดินทางเร็วขึ้น ดั่งเช่นเข็มนาฬิกาบอกเวลาเป็นวินาทีที่เดินผ่านช่วงเวลาต่างๆ เพียงชั่วพริบตา เรียนรู้ ก้าวข้ามสภาวะต่างๆ ด้วยความเข้าใจ ผู้คนเหล่านี้มักวางแผนการดำเนินชีวิตไปสู่อนาคต พยายามสร้างสรรค์ความเป็นปัจจุบันให้ส่งผลสวยงามในอนาคต ไม่ยึดติดกับอดีตที่ผ่านมา เร่งรีบและตื่นเต้นที่จะพบกับสิ่งใหม่ที่กำลังเดินทางไปหามัน ไม่รอคอยความรัก มักตามหาความรักจากผู้คนรอบข้าง ใจกว้างที่จะมอบความรักให้กับผู้คน มีวิธีการสร้างความสุขจากความรักได้ไม่ยาก ความรักจึงเป็นดั่งจิกซอว์ตัวสุดท้ายที่เติมเต็มภาพช่วงเวลาของชีวิตให้สวยงาม ตามกาลเวลาอันเหมาะสม
            ผู้คนมากมายต่างเริ่มต้นชีวิตแตกต่างกัน อาจเร็วหรือช้าแล้วแต่ธรรมชาติของแต่ละคน แต่สุดท้ายแล้วการเดินทางตามหาความรักจะพบเจอกับช่วงเวลาอันเหมาะสมที่เข็มนาฬิกาบรรจบตรงกัน เมื่อนั้นความรักอาจเริ่มต้น หรือในบางครั้งการบรรจบของเข็มนาฬิกาที่ไม่เหมาะสม ความรักก็อาจเป็นดั่งเข็มวินาทีที่ผ่านมาและเดินทางไปอย่างรวดเร็ว คงไม่สามารถบอกได้ว่าช่วงเวลาใดเหมาะสมสำหรับการมีความรัก เพราะเข็มนาฬิกาต่างมีช่วงเวลาที่สั้นยาวต่างกัน แต่ถึงอย่างไรหากเรายังคงเชื่อมั่นในความรัก ศรัทธาที่จะค้นหาและรอคอยมัน เชื่อว่าเมื่อเราค้นพบความรักนั้นแล้ว ความสุขที่มากล้นจนเกินจะบรรยายจะเกิดขึ้นได้กับเราทุกคน


            เราอาจดำเนินชีวิตตามวิถีเข็มนาฬิกา เพราะชื่นชมในความสม่ำเสมอของการเดินทางของเวลา นั่นอาจไม่ใช่เรื่องสำคัญทั้งหมดของชีวิต การเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและใช้ความรักสร้างคุณค่าของชีวิต อาจเป็นทางลัดไปสู่การมีความรักที่สมบูรณ์พร้อมสำหรับการดำเนินไปตามการเดินทางของช่วงเวลาชีวิต หากเรามีความรักที่สมบูรณ์ ความรักมักนำพาเราไปสู่การแบ่งปันไม่ว่าความรักนั้นจะมีรูปแบบอย่างไร
            แต่ในอีกมุมหนึ่งของความรัก หากเรารักผู้อื่นมากเสียจนลืมที่จะรักและดูแลตัวเราเอง ก็อาจเกิดปัญหาตามมาจากความรักนั้นได้ หากเราลองทบทวนค้นหานิยามของความรักจะพบว่า ความรักย่อมเกิดจากหลายปัจจัยที่เหมาะสม ไม่มากหรือน้อยไป เกิดจากความสม่ำเสมอและรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเองให้สมบูรณ์ ความรักนั้นจึงจะสวยงามและทำให้ชีวิตสมบูรณ์ แต่ความรักไม่ใช่สิ่งเดียวเท่านั้นที่ทำให้ชีวิตมีความสุข ชีวิตเรายังคงต้องการส่วนประกอบอื่นๆ มากบ้างน้อยบ้างตามช่วงเวลาของชีวิตที่เหมาะสม
            ชีวิตเรายังจำเป็นต้องอาศัยการเดินทางของช่วงเวลา  ตราบใดที่เรายังคงปรารถนาที่จะมีความรัก การค่อย ๆ เรียนรู้และทำความเข้าใจเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากเราปล่อยวันเวลาให้ล่วงเลยไปโดยไม่ยอมเรียนรู้สิ่งเหล่านั้น มันอาจจะนำพาเราไปสู่ความทุกข์ แต่ก่อนที่เวลานั้นจะมาถึงเราควรสร้างความสุขจากช่วงเวลาต่างๆของชีวิต และค่อย ๆ เรียนรู้ความรักที่เกิดขึ้นไปพร้อม ๆ กับสิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิต
ขอให้ความรักของเราเป็นดั่งนาฬิกาที่มีส่วนประกอบเรียบง่าย เราอาจเป็นหนึ่งในเข็มนาฬิกานั้น เดินทางและเรียนรู้เรื่องราวของความรักจากเข็มนาฬิกาอื่นๆ ที่เดินทางผ่านตัวเราไป เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสมเข็มนาฬิกาจะบรรจบตรงกัน เราอาจได้เริ่มต้นเรียนรู้ที่จะมีความรักได้

                แด่ความรักที่ผ่านพ้นไปเร็วดั่งเข็มวินาที...


เลยลม...

วาดเล่น...ยามว่าง

ภาพชุมชุนริมน้ำจันทบูร    จ.จันทบุรี   



       เมื่อยามว่างการหยิบภู่กัน ระบายสีน้ำบนกระดาษ ก็อาจทำให้เราสร้างความสุขเล็กๆของเราได้เอง
แต่โดยทั่วไปแล้ว หลายคนอาจมองว่าการวาดภาพสีน้ำเป็นเรื่องยาก ขอให้ปรับทัศนคติเสียใหม่ แล้ว
เริ่มต้นหยิบภู่กันมาระบายเล่นบนกระดาษ ทดลอง ทำความรู้จักกับมัน คุณอาจจะพบความมหัศจรรย์
ของการทำงานศิลปะ ได้ไม่ยากนะครับ...
    หลายครั้งที่เราเดินทางไปเที่ยวชม พักผ่อนตามสถานที่ต่าง เราบันทึกสิ่งเหล่านั้นด้วยการถ่ายภาพ
ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา และกลายเป็นกิจวัตรของใครหลายคนไปแล้ว แต่จะดีแค่ไหนหากเราเปลี่ยนวิธีบันทึกความทรงจำของเราด้วยภาพวาดขนาดเล็กๆ ที่วาดด้วยตัวเราเอง มันคงวิเศษไม่น้อย เพราะระหว่างที่เรากำลัง ลงมือบันทึกสิ่งเหล่านั้นด้วยการบัดป้ายฝีแปรงลงบนกระดาษ มันไม่เพียงนำภาพความสวยงามนั้นย่อลงบนกระดาษ แต่มันยังจะบันทึกบรรยากาศ ความรู้สึกรอบด้าน และอารมณ์ของสถานที่เหล่านั้นด้วย...
   ลองดูซิ ลองเริ่มต้นจากการวาดง่ายๆนะครับ แล้วคูณจะพบว่าเราทุกคนสามารถวาดรูปได้

เลยลม... ^____^